Saturday, August 28, 2010

ตอนที่ 153

ภาพคุ้นตาที่ใครได้ผ่านไปแถวๆ ม.ดังแถวถนนพหลโยธินในช่วงเวลาเกือบเคารพธงชาติทุกวันจันทร์ถึงพฤหัส ก็จะพบเห็นหญิงคนหนึ่งกำลังก้าวเดินลงพรมแดง มีคนคอยกางร่มคันใหญ่ให้พร้อมสหายติดตามข้างกายอีกเกือบ 10 คน นี่ยังไม่รวมสีกากี,สีเขียว ที่วันๆ ไม่ต้องไปทำงานทำการ เพราะต้องมาคอยยืนตากแดด ตากฝน คอยต้อนรับเธอ เพราะที่โรงงานแห่งนี้หน้าที่หลักของเหล่าบรรดาคนมีสีไม่ใช่การดูแลลูกจ้าง

แต่การเอาใจครอบครัวของลุง ดูจะเป็นหัวใจใหญ่กว่า

เหตุการณ์เริ่มเป็นแบบนี้ได้ไม่นาน เพราะปีที่แล้วเธอยังไม่ได้มาเรียนมากวันขนาดนี้ หลังจากที่เธอเริ่มรู้ตัวว่าอีกไม่นานสีส้มอาจจะได้เปลี่ยนมาแทนสีฟ้า หลังจากที่ใครบางคนได้จากไป(แต่ก็เป็นการคาดเดาเองของเธอฝ่ายเดียว)

เหตุผลที่เธอเลือกที่นี่คงเป็นเพราะว่าเธอต้องการเป็นนางพญาอย่างสมบูรณ์แบบที่สุดทั้งภาพลักษณ์หน้าตา ผิวพรรณ และการศึกษา เพราะหลังจากนี้ไปอีกไม่ว่าก็คงจะมีข่าวใหญ่โตว่าเธอเรียนจบดอกเตอร์

ภาระกิจอัพเกรดจาก อดีต "โฉมชบา" บนเวทีที่ต้องคอยขับกล่อมให้บรรดามิตรรักแฟนเพลงที่ร้านอาหารชื่อดังแถวๆ ริมคลองอัมพวาให้กลายมาเป็นนางพญา เป็นสิ่งที่เธอ "รัศมีจันทร์" ต้องรีบพิชิตภาระกิจนี้ให้ได้

การปืดถนนเป็นว่าเล่นเพื่ออวดศักดาของเธอก็เริ่มมีให้เห็นมากยิ่งขึ้น เพราะในครอบครัวนี้เป็นที่รู้กันว่าการที่ได้แข่งกันอวดบารมีเป็นสิ่งมีให้เห็นเป็นประจำ

เพราะวันดีคืนก็จะมีกำหนดการปิดถนนโดยที่ถนนแถวทางไปบ้านเก่าของเธอจะโดนปิดบ่อยมาก บางที่เธอก็สั่งปิดแล้วเธอก็เปลี่ยนใจกระทันหัน วกขบวนกลับบ้านเสียอย่างนั้น

ตอนนี้ภาพอดีตอันดูเหมือนที่ไม่ค่อยน่าจะจดจำนักเท่าไรกำลังจะเลือยหายไป คงมีคนอีกจำนวนไม่น้อยที่ทราบเรื่องราวในอดีตของเธอ โดยเฉพาะช่วงที่เธอเคยทำหน้าที่มอบความบันทิงและความสุขแก่บรรดาแขกเหรื่อในที่ที่เธอทำงานอยู่ เพราะว่าคนเหล่านี้ปัจจุบันก็ยังคงทำงานอยู่ที่เดิมที่ที่เดียวกับเธอ

เดิมที "รัศมีจันทร์" เคยเป็นนักร้องที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งที่แถวๆ คลองอัมพวาก่อนที่เธอจะย้ายเข้ากรุงไปทำงานที่คาเฟ่แห่งหนึ่ง ตามที่ได้เคยรายงานไปก่อนหน้านี้แล้ว

แต่เรื่องราวในอดีตของเธอในช่วงนี้ จัดว่าน่าสนใจเป็นอย่างมาก

เริ่มตั้งแต่สมัยเด็กรัศมีจันทร์พักอาศัยอยู่กับพ่อแม่ที่บ้านเล็ก ๆ ที่ต่างจังหวัด ซึ่งที่นี่เองเธอก็ได้พบกับพผู้ชายคนหนึ่งที่อยู่ข้างบ้านเธอนั่นเอง พี่คนนี้ที่ถือว่าเป็นผู้ชายคนแรกในชีวิตของเธอ พี่เอกมีอาชีพทำป้ายและนามบัตร พี่เอกตามจีบเธออยู่นาน เพราะตอนนั้นรัศมีจันทร์ยังไม่เคยผ่านชายคนใดมาก่อน และพ่อแม่ของเธอก็ไม่ค่อยชอบพี่เอกซักเท่าไร

พี่เอกใช้เวลาอยู่นานจนได้เธอมาเป็นแฟน ใครๆ ที่อัมพวาก็รู้กันทั้งหมดไม่เชื่อก็ไปถามกันได้ ถ้ามีใครก็ตอบว่าเขาทั้งสองอยู่กินกันฉันสามี-ภรรยา เพราะหลังจากที่แม่ของเธอจับได้ว่าทั้งคู่มีอะไรกัน

รัศมีจันทร์ออกขอย้ายออกมาอยู่กับพี่เอก นี่ก็เป็นเรื่องที่ทำให้แม่วันกับพ่อรุจตัดญาติขาดมิตรกับเธออยู่พักใหญ่ ช่วงนี้เกิดก่อนที่เธอจะเข้ากทม.มาเรียน BBC อยู่ซักพักใหญ่ๆ

หลังจากนั้นเธอจะมาทำงานที่ร้านอาหารรึมบึงร้านอาหารที่อยู่ริมน้ำติดกับคลองอัมพวา โดยที่พี่เอกจะเป็นคนขี่ชอปเปอร์และรัศมีจันทร์ จะนั่งซ้อนท้ายมาทำงาน เธอทำอยู่ที่ร้านนี้อยู่หลายปี

รัศมีจันทร์ถือว่าเป็นแม่เหล็กประจำร้านนี้เลยก็ว่าได้ เพราะคืนๆ หนึ่งเธอจะได้พวงมาลัยคล้องคอเป็นจำนวนมาก

โดยคืนๆ หนึ่งเธอจะร้องเพลงอยู่ราว 3-4 เพลง หลังจากที่เสร็จงานพี่เอกก็จะเป็นคนคอยมารับเธอว่ากันว่าเธอเกือบจะมีลูกคนแรก กับพี่เอก เสียดายที่เธอแท้งไปก่อนหน้านี้ไม่งั้นขนมปังก็คงได้มีพี่เพิ่มอีกคน

หลังจากที่รัศมีจันทร์เริ่มมีชื่อเสียงภารกิจเนรเทศพี่เอกของทีมงานจ่าก็ได้เริ่มต้นขึ้น (ไม่ต่างอะไรจากที่ครอบครัวของสุทธิดาโดน)

แต่พี่เอกและครอบครัวไม่ได้โชคดีเท่ากับครอบครัวของสุทธิดา ตอนนี้ก็คงไม่ต้องถามว่าพี่เอกหนุ่มผมยาวตอนนี้เป็นตายร้ายดีอย่างไร เพราะดูแล้วคิดว่าคงมีจุดจบเดียวกันกับ

ศรินทิพย์

Sunday, August 15, 2010

ตอนที่ 152

หลังจากผ่านงานใหญ่มา ป้าดูจะมีความสุขหลายเรื่องในวันพิเศษปีนี้ เพราะชายเล็กที่จัดได้ว่า เป็นคนว่านอนสอนง่าย ป้าสั่งอะไรไป ชายเล็กก็จัดให้ ไม่มีขาดตกบกพร่อง ไม่ว่าจะเรื่องการจัดงาน หรือกิจกรรม ที่ต้องยิ่งใหญ่ไม่แพ้ของลุง แบบว่างานของลุงมีอะไร ป้าก็ต้องมีด้วย สังเกตได้จาก งานเวที หรืองาน หาบุคคลในอดีต ที่ป้าเอ่ยปากขอกับชายเล็กเอง


แต่สิ่งที่จะทำให้เป็น การอัพเกรด เหล่าหน้ากากเสือ ให้ได้ดิบได้ดีกันทั่วหน้า เรื่องนี้เคยได้รายงานไปก่อนหน้านี้แล้วว่า นะจ๊ะ และผองเพื่อน คงทำให้ ครอบครัวของลุงและป้า อุ่นใจได้ไปอีกหลายปี ต่อจากนี้จะเห็นข่าวทางช่องนี้ มีแต่คุณงามความดีของป้ากันมากมายอย่างที่ไม่เคยปรากฎมาก่อน


เพราะป้าต้องการ รีแบรนด์ ของป้า ให้กับมาขายได้อีกครั้ง งานนี้ ก็เป็นหน้าที่ของบรรดา ลูกๆ ทั้งสาม ที่ต้องช่วยกันลงไม้ลงมือกันอย่างขะมักเขม้น


ตอนนี้เก้าอี้ ทรัพย์สิน และอนาคตของโรงงานที่ตอนนี้ก็เป็นอย่างที่ทราบกันว่า สถานการณ์ไม่ค่อยสู้ดี เพราะหลังจากที่ลุง และป้านั่งไม่ติดมาหลายปี เพราะลุงและป้า เป็นกังวัลว่า เหล่าชายรอง ที่ผ่านๆ ไม่ใช่พวกของลุงแต่เป็นพรรคพวกของแมว เรื่องนี้ถือเป็นเรืองใหญ่ เพราะลุงและป้าเกรงว่า ชายรองอาจจะทำการเปลี่ยนแบบที่บางโรงงานเคยโดนมาแล้ว


แต่ป้าดูจะออกอาการมากกว่าลุง เพราะฉะนั้นป้าจะเป็นตัวตั้งตัวตีในการโค่นแมว และป้าก็ทำได้สำเร็จจริงๆ แต่สิ่งที่ บรรดาลูกชาย ทำให้ป้ามากกว่านั้น มันก็ยิ่งทำให้ป้าดูจะมีความสุขมากยิ่งขึ้นเห็นจะเป็น เรื่อง ที่ชายใหญ่ปิดเกมส์เรื่องของแมวได้สำเร็จ และชายเล็กยังสามารถดันอ้วนดำ เข้าวินมาได้อีก โดยปกติแล้ว อ้วนดำ เป็นคนที่อยู่ใกล้ชิดกับ ครอบครัวของลุง และป้ามาโดยตลอด


แต่หลังจากที่มี คลิปริมสระ ของจ่าหลุดออกไป จ่ากล่าวหาว่า อ้วนดำ เป็นส่วนหนึ่งในการปล่อยคลิปดังกล่าว จ่าก็เลยไม่พอใจ อ้วนดำก็เลยกระเด็นออกจากบ้านหลังใหญ่ ของลุง


ใครๆ ก็รู้ว่า จ่าไม่เลิฟ อ้วนดำ อ้วนดำก็รู้ตัวดี ถ้าใครไปถามเรื่องของจ่า อ้วนดำ จะทำหน้าบอกบุญไม่รับ อ้วนดำเคยบอกว่า ถ้าจ่าดีจริง ทำไมคน ป.โท แถว สนามหลวง ไม่ยอมรับใบกับจ่า ตรงนี้ใครที่ผ่านที่นั่นมาก็จะรู้ว่า การรับกับจ่า นั้นเขาขอไม่เอาดีกว่า


ตรงนี้ ป้าก็สั่ง นาย ป ไปแล้วว่า ชายเล็กยังมีประโยชน์ ถ้ารูปการยังเป็นแบบนี้ ร้านกิจการของชายเล็ก ก็คงอยู่รอดปลอดภัย ไปตามระเบียบ


แต่จะว่าไปแล้ว วันพิเศษ ปีนี้คงจะไม่ใช่ปีที่ดีที่สุด เพราะป้า เคยมีปีที่ดีกว่านี้ เพราะทุกๆ ปีในวันพิเศษ ป้ามักจะรำลึกความหลังจมติดไปกับอดีตอันหวานชื่น


เพราะป้าเคยมีวันดีๆ กับชายคนหนึ่ง คนๆ นี้ป้ารักเขามากกว่า กิ๊ก คนไหนๆ แน่นอนมันต้องมากกว่า เจ๊ก ดีไม่ดี อาจจะมากกว่าลุงที่เป็นสามีแท้ เสียด้วยซ้ำ


เพราะมีอยู่ปีหนึ่ง ป้าเคยหนีลุงไปเที่ยวดื่ม น้ำผึ้งพระจันทร์ กับน้ำผึ้ง ไกลถึงแดนลุงแซม


ใครๆ ก็รู้ว่า ป้าและน้ำผึ้ง มีความสัมพันธ์ กันลึกซึ้งแค่ไหน ดูได้จาก หนังสืองานศพของน้ำผึ้ง


วันพิเศษปีนั้นป้าลงทุนหนีไปจัดงาน ลอดซุ้มกระบี่กับน้ำผึ้ง กันที่เมืองนอก ( เซทเดียวกับที่ป้าควงแขนน้ำผึ้ง )


ภาพเซทนี้ทำให้ลุง และจ่าไม่พอใจการกระทำของป้า และน้ำผึ้งเป็นอย่างมาก


ตอนนั้นลุงห้ามอะไรป้าก็ไม่ฟัง เรียกว่าเอาช้างมาฉุดก็ไม่อยู่ อีกไม่นานความตายก็ได้พรากทั้งคู่ไปจากกัน หลังจากนั้น ป้าก็จะคิดถึงเหตุการณ์นี้


ป้าไปดูหมอดู ที่ชื่อว่า หมูหยอง ( คนเดียวกันกับที่โดนจ่าเอาท้ายปืนตบหน้า เพราะเขาคนนี้เคยไปทายทักว่า สุทธิดาจะไม่มีแผ่นดินจะอยู่ )


หมอดู แนะนำว่า ป้าต้องไปเป็นประธานในการมอบกระบี่ เพราะเขาทำนายว่าการทำเช่นนี้ ป้า จะได้เป็นใหญ่เป็นโต ตอนนั้นป้าก็ไปแทนลุง ไปมอบให้ไม่กี่รุ่น ปรากฎว่า เด็กรุ่นนั้น ปีแรกตายไปเกือบครึ่งรุ่น


หลังจากนั้น เขาก็ไม่ให้ป้าไปมอบให้อีกเลย ตรงนี้ไปสอบถามกันได้


ถึงตอนนี้ป้าอาจจะลืมๆ น้ำผึ้งไปได้บ้าง แต่ก็คงไม่หมด เพราะตอนนี้บ้านของน้ำผึ้งที่พหลโยธิน ป้าก็จะเก็บเอาไว้ในสภาพเดิม และคอยหาโอกาสแวะเวียนไปมายามที่ป้าหวนคิดถึงความทรงจำเก่าๆ


ส่วนหนึ่งป้าต้องยกความดีนี้ไปให้ เจ๊ก เพราะเจ็ก ทำให้ป้ากลับมายิ้มได้อีกครั้ง ไม่ว่า จะเป็นเรื่อง กำจัดแมว หรือ เรื่อง ชวนตื่นเต้นที่เคยได้รายงานไปแล้ว


เพราะ เจ๊ก เป็นคนที่เอาใจเก่ง ไม่นานมานี้ ทั้งคู่ก็ไป ที่โรงแรมดุสิต หัวหิน ป้าสั่งปิดโรงแรม เพื่อไปร้องคาราโอเกะ โดยเพลงที่ป้ามักจะร้องเป็นประจำ ก็คือ ผู้ชายในฝัน แต่เรื่องไปร้องมา ป้าดันแปลงเนื้อเพลง กลายเป็นเพลงลามก ตรงนี้ไปสอบถามเจ๊ก กันได้ ถ้าเจ๊ก กล้าที่จะไม่ปิดบัง


คราวหน้า จะหวนความหลังพาไปเที่ยว ตลาดน้ำอัมพวา ที่มี ร้านอาหารริมน้ำชื่อดัง สถานที่ที่เคยเป็นความหลังของใครบางคน…….