ภาพคุ้นตาที่ใครได้ผ่านไปแถวๆ ม.ดังแถวถนนพหลโยธินในช่วงเวลาเกือบเคารพธงชาติทุกวันจันทร์ถึงพฤหัส ก็จะพบเห็นหญิงคนหนึ่งกำลังก้าวเดินลงพรมแดง มีคนคอยกางร่มคันใหญ่ให้พร้อมสหายติดตามข้างกายอีกเกือบ 10 คน นี่ยังไม่รวมสีกากี,สีเขียว ที่วันๆ ไม่ต้องไปทำงานทำการ เพราะต้องมาคอยยืนตากแดด ตากฝน คอยต้อนรับเธอ เพราะที่โรงงานแห่งนี้หน้าที่หลักของเหล่าบรรดาคนมีสีไม่ใช่การดูแลลูกจ้าง
แต่การเอาใจครอบครัวของลุง ดูจะเป็นหัวใจใหญ่กว่า
เหตุการณ์เริ่มเป็นแบบนี้ได้ไม่นาน เพราะปีที่แล้วเธอยังไม่ได้มาเรียนมากวันขนาดนี้ หลังจากที่เธอเริ่มรู้ตัวว่าอีกไม่นานสีส้มอาจจะได้เปลี่ยนมาแทนสีฟ้า หลังจากที่ใครบางคนได้จากไป(แต่ก็เป็นการคาดเดาเองของเธอฝ่ายเดียว)
เหตุผลที่เธอเลือกที่นี่คงเป็นเพราะว่าเธอต้องการเป็นนางพญาอย่างสมบูรณ์แบบที่สุดทั้งภาพลักษณ์หน้าตา ผิวพรรณ และการศึกษา เพราะหลังจากนี้ไปอีกไม่ว่าก็คงจะมีข่าวใหญ่โตว่าเธอเรียนจบดอกเตอร์
ภาระกิจอัพเกรดจาก อดีต "โฉมชบา" บนเวทีที่ต้องคอยขับกล่อมให้บรรดามิตรรักแฟนเพลงที่ร้านอาหารชื่อดังแถวๆ ริมคลองอัมพวาให้กลายมาเป็นนางพญา เป็นสิ่งที่เธอ "รัศมีจันทร์" ต้องรีบพิชิตภาระกิจนี้ให้ได้
การปืดถนนเป็นว่าเล่นเพื่ออวดศักดาของเธอก็เริ่มมีให้เห็นมากยิ่งขึ้น เพราะในครอบครัวนี้เป็นที่รู้กันว่าการที่ได้แข่งกันอวดบารมีเป็นสิ่งมีให้เห็นเป็นประจำ
เพราะวันดีคืนก็จะมีกำหนดการปิดถนนโดยที่ถนนแถวทางไปบ้านเก่าของเธอจะโดนปิดบ่อยมาก บางที่เธอก็สั่งปิดแล้วเธอก็เปลี่ยนใจกระทันหัน วกขบวนกลับบ้านเสียอย่างนั้น
ตอนนี้ภาพอดีตอันดูเหมือนที่ไม่ค่อยน่าจะจดจำนักเท่าไรกำลังจะเลือยหายไป คงมีคนอีกจำนวนไม่น้อยที่ทราบเรื่องราวในอดีตของเธอ โดยเฉพาะช่วงที่เธอเคยทำหน้าที่มอบความบันทิงและความสุขแก่บรรดาแขกเหรื่อในที่ที่เธอทำงานอยู่ เพราะว่าคนเหล่านี้ปัจจุบันก็ยังคงทำงานอยู่ที่เดิมที่ที่เดียวกับเธอ
เดิมที "รัศมีจันทร์" เคยเป็นนักร้องที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งที่แถวๆ คลองอัมพวาก่อนที่เธอจะย้ายเข้ากรุงไปทำงานที่คาเฟ่แห่งหนึ่ง ตามที่ได้เคยรายงานไปก่อนหน้านี้แล้ว
แต่เรื่องราวในอดีตของเธอในช่วงนี้ จัดว่าน่าสนใจเป็นอย่างมาก
เริ่มตั้งแต่สมัยเด็กรัศมีจันทร์พักอาศัยอยู่กับพ่อแม่ที่บ้านเล็ก ๆ ที่ต่างจังหวัด ซึ่งที่นี่เองเธอก็ได้พบกับพผู้ชายคนหนึ่งที่อยู่ข้างบ้านเธอนั่นเอง พี่คนนี้ที่ถือว่าเป็นผู้ชายคนแรกในชีวิตของเธอ พี่เอกมีอาชีพทำป้ายและนามบัตร พี่เอกตามจีบเธออยู่นาน เพราะตอนนั้นรัศมีจันทร์ยังไม่เคยผ่านชายคนใดมาก่อน และพ่อแม่ของเธอก็ไม่ค่อยชอบพี่เอกซักเท่าไร
พี่เอกใช้เวลาอยู่นานจนได้เธอมาเป็นแฟน ใครๆ ที่อัมพวาก็รู้กันทั้งหมดไม่เชื่อก็ไปถามกันได้ ถ้ามีใครก็ตอบว่าเขาทั้งสองอยู่กินกันฉันสามี-ภรรยา เพราะหลังจากที่แม่ของเธอจับได้ว่าทั้งคู่มีอะไรกัน
รัศมีจันทร์ออกขอย้ายออกมาอยู่กับพี่เอก นี่ก็เป็นเรื่องที่ทำให้แม่วันกับพ่อรุจตัดญาติขาดมิตรกับเธออยู่พักใหญ่ ช่วงนี้เกิดก่อนที่เธอจะเข้ากทม.มาเรียน BBC อยู่ซักพักใหญ่ๆ
หลังจากนั้นเธอจะมาทำงานที่ร้านอาหารรึมบึงร้านอาหารที่อยู่ริมน้ำติดกับคลองอัมพวา โดยที่พี่เอกจะเป็นคนขี่ชอปเปอร์และรัศมีจันทร์ จะนั่งซ้อนท้ายมาทำงาน เธอทำอยู่ที่ร้านนี้อยู่หลายปี
รัศมีจันทร์ถือว่าเป็นแม่เหล็กประจำร้านนี้เลยก็ว่าได้ เพราะคืนๆ หนึ่งเธอจะได้พวงมาลัยคล้องคอเป็นจำนวนมาก
โดยคืนๆ หนึ่งเธอจะร้องเพลงอยู่ราว 3-4 เพลง หลังจากที่เสร็จงานพี่เอกก็จะเป็นคนคอยมารับเธอว่ากันว่าเธอเกือบจะมีลูกคนแรก กับพี่เอก เสียดายที่เธอแท้งไปก่อนหน้านี้ไม่งั้นขนมปังก็คงได้มีพี่เพิ่มอีกคน
หลังจากที่รัศมีจันทร์เริ่มมีชื่อเสียงภารกิจเนรเทศพี่เอกของทีมงานจ่าก็ได้เริ่มต้นขึ้น (ไม่ต่างอะไรจากที่ครอบครัวของสุทธิดาโดน)
แต่พี่เอกและครอบครัวไม่ได้โชคดีเท่ากับครอบครัวของสุทธิดา ตอนนี้ก็คงไม่ต้องถามว่าพี่เอกหนุ่มผมยาวตอนนี้เป็นตายร้ายดีอย่างไร เพราะดูแล้วคิดว่าคงมีจุดจบเดียวกันกับ
ศรินทิพย์
No comments:
Post a Comment